หรือพระอิศวร ในยุคไตรเพท ยังไม่ปรากฎว่ามีพระอิศวรหรือศิวะ คงมีเทพบุตรอยู่องค์หนึ่ง แต่พอเกิดมาก็ร้องไห้ พระผู้ให้บังเกิดจึงประทานชื่อตามนิมิตรุทระ เป็นเทวดาที่มีอำนาจมาก เป็นใหญ่เหนือการสรรเสริญและยัญกรรมทั้งปวง เป็นผู้ล้าง ผู้ทำลาย ซึ่งถือว่าทำให้สะอาดปราศจากมลทิน เพื่อได้มีการกำเนิดใหม่ เหตุนี้รุทระจึงได้นามว่า ศิวะ ( กรุณา หรือชุบให้สะอาด )
พระศิวะนี้ตามกำเนิดว่าเป็นโอรสพระกัศยปะกับนางสุรภี บางตำราว่าเกิดด้วยพระพรหมาบำเพ็ญตบะจนเสโทไหล จึ่งได้เอาไม้ขูดที่โขนง ฉวีถลกโลหิตหยดลงไปในไฟก็กำเนิดเป็นองค์เทพบุตรมีนามว่า รุทระ หรือ ศิวะนั้นเอง ส่วนในตำรับที่มีในหอสมุดวชิรญาณว่า พระศิวะสร้างพระองค์เองเมื่อเพลิงบรรลัยกัลป์สังหารโลกสิ้นแล้ว เป็นอากาศว่างเปล่าอยู่ พระเวทและพระธรรมทั้งหลายได้ประชุมกัน ก็จึงบังเกิดเป็นพระองค์เจ้ามีนามว่า พระปรเมศวร จากนั้นพระองค์ก็สร้างพระเป็นเจ้าองค์ต่อไป
พระศิวะมีกายสีขาว หรือก็ว่าเป็นสีแดง และสีดำแล้วแต่ตามยุคสมัย ท่านทรงมีสามตา ตาที่สามอยู่ตรวหน้าผากมีรูปพระจันทร์ครึ่งซีกอยู่เหนือตาที่สาม ( ตามตำนานว่ากันว่าตาที่สามนั้นมีอนุภาพมากเมื่อใดที่ตาที่สามท่านเปิด เมื่อนั้นทุกอย่างจะโดนไฟผลาญจนสิ้น) เกศามุ่นเป็นชฎารุงรัง มีประคำกระโหลกหัวคนคล้องคอมีสังวาลเป็นงู ศอมีสีนิลดำ ( เกิดจากทรงเสวยพิษพญานาค คอเลยไหม้เมื่อคราวเทวดาและอสูรกวนน้ำอมฤตในปางกูรมารตาร ) นุ่งหนังเสือ หนังช้างหรือหนังกวาง บางทีก็เปลือยกาย ทรงสถิตอยู่บนเขาไกลาสในเทือกเขาหิมาลัย
เป็นยอดเขาแห่งหนึ่งของเทือกเขาหิมาลัย ตั้งอยู่ในทิศตะวันตกของเขตปกครอง ตนเองทิเบต
ทางตอนเหนือของยอดเขานันทาเทวีราว 100 ไมล์
บ้างก็ชอบอยู่ตามสุสาน ป่าช้า และมีภูตผีเป็นบริวารจึงมีนามว่า ภูเตศวร มีอาวุธตรีศูลชื่อปินาก ธนูชื่ออชคพ คทายอดหัวกะโหลกชื่อขัฎวางค์ บางทีก็ถือบาศหรือบ่วง บางครั้งก็ถือ บัณเฑาะ มฤค สังข์บ้าง
พระศิวะท่านมีพระมเหสีที่ออกหน้าออกตาชื่อ อุมา หรือ ปารวตี และมีองค์รองๆลงมาคือ พระคงคาและนางสนธยา มีพระโอรสสององค์คือ องค์พี่คือพระขันธกุมาร และองค์น้องคือพระคเณศ
พระศิวะ และ พระมเหสีปารวตี
พระโอรสทั้งสอง พระขันธกุมารและพระคเณศ
นามของพระศิวะหรือพระอิศวรนั้นมีนับร้อย คือเรียกตามฤทธิ์ตามเดชหรือตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเช่น
อโฆระ(น่าสะพรึงกลัว) คงคาธร(ผู้ทรงซึ่งแม่พระคงคา) คีรีศะ(ผู้เป็นใหญ่แห่งขุนเขา) มฤตยุนชัย(ผู้ปราบความตาย) อุคระ(ดุ) วิศวนาถ(เป็นที่พึ่งแห่งโลก)
อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ของพระอิศวรนี้ สุดแต่ผู้ที่นับถือ ถ้าเป็นไศวนิกายก็ว่าพระอิศวรเป็นใหญ่กว่าใครๆ แต่ถ้าเป็นหนังสือไวษณพนิกายก็ชิงเอาความเป็นใหญ่ไปให้กับพระนารายณ์ บางคราวก็แสดงว่าพระอิศวรแพ้ฤทธิ์พระนารายณ์ก็มี บางครั้งถึงให้พระอิศวรแสดงความเคารพและบางครั้งก็ให้พระนารายณ์ต้องมาช่วยปราบศตรูของพระอิศวรก็มี
พระศิวะหรือพระอิศวรนี้ปกติทรงมีนิสัยที่เปี่ยมไปด้วยความกรุณา ใครมาขอพรก็ทรงให้ง่ายๆ โดยบางครั้งก็ไม่สนใจคนที่มาขอว่าเป็นคนดีหรือไม่ดี และเมื่อขอพรไปแล้วจะเอาไปทำดีหรือทำชั่วก็ไม่สนพระทัย ทั้งนี้ท่านยังทรงเป็นผู้ทำลายล้าง หรืออีกในความหมายหนึ่งคือ กรุณาให้ไปกำเนิดใหม่ และอาจถือเป็นผู้สร้างด้วย โดยมีเครื่องหมายในการสร้างที่เรียกกันว่า ศิวลิงค์ ( ใครไม่เคยเห็นไปดูที่วัดพระเชตุพนฯหรือวัดโพธิ์ )
ศิวลึงค์
รูปปั้นขนาดใหญ่ของพระศิวะที่ อินเดีย
รูปปั้นขนาดใหญ่ของพระศิวะที่ มาเลเซีย
รูปปั้นพระศิวะ ที่เนปาล
Shiva
By Zidane Rider
แหล่งที่มา : หนังสือ เทวกำเนิด ของพระยาสัจจาภิรมย์ฯ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น